บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR ผุดไอเดียผลิตภัณฑ์ “ชานอ้อย” เสิร์ฟตรงผู้บริโภค ชูจุดเด่นรักษ์โลก ซึ่งบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย มีจุดเด่นเป็นเยื่อไม่ฟอกย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติด้วยการฝังกลบ ไม่เกิน 45-60 วัน ไม่ทำลายหน้าดิน แถมยังต่อยอดเป็นสารอาหารในดิน ปลูกต้นไม้ได้ไม่มีปนเปื้อนสารเคมี โดย BRR ตั้งเป้าเป็นภาคเอกชนที่ทำธุรกิจไม่ส่งผลต่อสังคมในระยะยาว เพื่อสอดรับ Roadmap ภาครัฐ ในการลด-เลิกผลิตขยะพลาสติก และดำเนินธุรกิจบนหลัก ESG คือคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล
![](https://sp-ao.shortpixel.ai/client/to_webp,q_glossy,ret_img,w_1024,h_683/https://thaiinnovation.center/wp-content/uploads/2022/08/e617db1c6f4ebcc23505de13428b1155c01cd3a4a323540463f3107ef4c9dd4f-1024x683.jpg)
นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดแนวคิดของการทำธุรกิจเพื่อควบคู่กับการรักษ์โลก ช่วยโลกได้อย่างยั่งยืนว่า “ตลอดระยะเวลาการทำธุรกิจมากว่า 5 ทศวรรษ เราให้ความสำคัญ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า, คู่ค้า, ผู้ถือหุ้น, พนักงาน และชุมชน รวมถึงสังคมโดยรวม BRRในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการภาคเอกชนที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท มีปณิธาณที่ตั้งไว้ตลอดมาคือ กระบวนการผลิตของเราต้องไม่ทำร้ายโลก และปลอดภัยต่อสังคม และผู้บริโภคมากที่สุด ประกอบกับการสร้างความมั่นคงด้านผลผลิต พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่กับชุมชน สังคม และประเทศชาติ ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยใช้หลักการพัฒนานวัตกรรม และสนับสนุนด้านการวิจัย เพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กรให้เติบโตมั่นคงไปพร้อมกัน”
โดยในช่วงปีที่ผ่านมา ทั่วโลกเริ่มพูดถึงกระแสคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) กันอย่างแพร่หลาย ทั้งการใช้ พลังงาน การเกษตรกรรม การพัฒนาและการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมที่เป็นสาเหตุสำคัญ ของการเกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งนับวันปัญหาดังกล่าวก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะเดียวกันปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก กลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทุกประเทศที่ต้องรับมือ ซึ่งนโยบายภาครัฐของไทยเอง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติแผน Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 เมื่อวันที่ 15 ก.พ.64 นำร่องลดและคัดแยกขยะในหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ ปี 2565 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประกาศห้ามใช้พลาสติก 4 ชนิด แบบเด็ดขาดในปี 2565 ได้แก่ โฟม, ถุงหิ้ว, แก้ว และหลอดพลาสติก และเลิกใช้พลาสติกประเภทถุงพลาสติกหูหิ้ว กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติกแบบบาง ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง และหลอดพลาสติก นี่จึงทำให้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ อย่าง “ชานอ้อย” ของ BRR มีโอกาสเติบโตได้ในตลาดนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
![](https://sp-ao.shortpixel.ai/client/to_webp,q_glossy,ret_img,w_768,h_538/https://thaiinnovation.center/wp-content/uploads/2022/08/f62c6a526b1a6d80cf22485e1619fa7242183df04d759d84538fbb2dd58ada7f.jpg)
สำหรับผลิตภัณฑ์รักษ์โลกที่ทำจากเยื่อชานอ้อย อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ชูการ์เคน อีโคแวร์ จำกัด หรือ SEW ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BRR ถือหุ้นอยู่ 99.99% SEW ประกอบธุรกิจผลิตสินค้าเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ด้านอุปโภคและบริโภค อุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องใช้ ที่ทำจากชานอ้อยร่วมกับเยื่อของพืชธรรมชาติอื่น ปัจจุบัน SEW มีกำลังการผลิตประมาณ 300 ล้านชิ้น/ปี หรือราว 3,500 ตัน สามารถทดแทนผลิตภัณฑ์จากโฟมและพลาสติกได้ในอัตราส่วนที่เท่ากันคือ 300 ล้านชิ้น ต่อปี ซึ่งรวมในหลายประเภทผลิตภัณฑ์ เช่น กล่องโฟมใส่อาหาร จาน ชาม โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทมีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยทางบริษัทหวังขยายการใช้ผลิตภัณฑ์ชานอ้อยให้ทั่วถึงกลุ่มลูกค้าของบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ทุกคนหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อน
Discussion about this post