ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะเนรมิตประเทศที่เติบโตและพัฒนามาจากการทำเกษตรกรรมเป็นหลักอย่างประเทศไทย สู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรมให้ทัดเทียมนานาชาติ ซึ่งความฝันอันสูงสุดของการก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรม คือ การได้สร้างสรรค์นวัตกรรม และมีโรงงานผลิตเป็นของตนเอง เพื่อที่จะสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้ตามโจทย์ของการสร้างนวัตกรรมนั้นๆ ตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ หรือตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมไปถึงการผลิต “ชีวภัณฑ์” ที่สนองต่อเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) แห่งสหประชาชาติ (UN) ข้อที่ 3 ซึ่งว่าด้วยการส่งเสริมสุขภาวะ (Good Health & Well-being)
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิงรจพร วัชโรทยางกูร ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ มหาวิทยาลัยมหิดล (Establishment of Mahidol University Bio-industrial Development Center) ได้กล่าวถึงคำจำกัดความของ “ชีวภัณฑ์” ว่าหมายถึง ยาใดๆ ก็ตามที่ผลิตมาจากสิ่งมีชีวิต ซึ่งสามารถนำมาใช้รักษาโรคได้
ซึ่ง “ชีวภัณฑ์” ที่ “Pilot Plant ม.มหิดล” กำลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการผลิตชีวภัณฑ์ระดับประเทศ ได้แก่ ยา วัคซีน ตลอดจนโปรตีน แอนติบอดี หรือสารชีวภัณฑ์อื่นๆ ตลอดจนการพัฒนาเพื่อสนับสนุนการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูง (Advanced Therapy Medicinal Products: ATMPs) เช่น การรักษาด้วยเซลล์ หรือยีนบำบัด เป็นต้น
มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ความสำคัญในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาชีวภัณฑ์ต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายการพัฒนาสู่ประเทศอุตสาหกรรม และในการเป็นผู้นำด้านการแพทย์และสาธารณสุข จึงได้สร้างอาคารกึ่งอุตสาหกรรมเพื่อการสร้างสรรค์และพัฒนาชีวผลิตภัณฑ์ หรือ “Pilot Plant ม.มหิดล” ขึ้น
แม้ในปัจจุบัน “Pilot Plant ม.มหิดล” จะยังไม่สามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็มีส่วนสำคัญในการร่วมผลิต และทดสอบยาและวัคซีนที่อยู่ในขั้นการทดสอบในมนุษย์ และกำลังจะพัฒนาขึ้นเป็นชีวภัณฑ์ใหม่ ที่สามารถจะขยายผลสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ต่อไปในอนาคตอีกมากมาย
ตัวอย่างผลงานของ “Pilot Plant ม.มหิดล” อันเป็น “ปัญญาของแผ่นดิน” ที่มหาวิทยาลัยมหิดลภาคภูมิใจ อาทิ การร่วมกับกลุ่มวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วันเพ็ญ ชัยคำภา ในการวิจัยและพัฒนาการผลิตแอนติบอดีเพื่อรักษาโรคไข้หวัดใหญ่
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาชุดคัดกรองโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV) ตลอดจนได้ร่วมกับภาคเอกชนผลิตเซลล์ตั้งต้น และเซลล์เพาะเลี้ยงแบคทีเรีย ฯลฯ
ในฐานะศิษย์เก่าคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ผ่านประสบการณ์การบริหารจากภาคเอกชน ก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ มหาวิทยาลัยมหิดล (Establishment of Mahidol University Bio-industrial Development Center) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิงรจพร วัชโรทยางกูร ได้ใช้เทคนิคการกระจายอำนาจการบริหาร สู่ผู้จัดการโครงการย่อย ที่สามารถขับเคลื่อนอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการทำงานแบบการบริหารโครงการ (Project management) และการทำงานเป็นทีม จึงทำให้ “Pilot Plant ม.มหิดล” ในปัจจุบันสามารถดำเนินการไปพร้อมๆ กับการมีโครงการย่อยหลายโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งผลสู่มาตรฐานสากล ที่จะบรรลุผ่านการรับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ISO/IEC 17025 : 2005 ให้ได้ภายในปลายปี 2566
“เราวางตำแหน่ง “Pilot Plant ม.มหิดล” ไว้ในเชิงที่เป็น “Contract Development and Manufacturing Organization: CDMO” ที่คอย “สร้างคน” และคอยช่วยผลักดันจากงานวิจัยในระดับห้องปฏิบัติการ ให้เกิดเป็นรูปเป็นร่าง จนสามารถ “scale up” หรือขยายผลการผลิตในระดับอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ และมวลมนุษยชาติต่อไปในอนาคต” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิงรจพร วัชโรทยางกูร กล่าว
แม้ความฝันสู่การเป็นโรงงานต้นแบบพัฒนาชีวภัณฑ์ในระดับอุตสาหกรรม จะยังคงต้องใช้ความพยายามอีกมากมายสู่การบรรลุเป้าหมาย ขอเพียงกำลังใจจากพี่น้องชาวไทย เชื่อมั่นว่าดินแดนแห่งโลกเทคโนโลยีชีวภัณฑ์ทางการแพทย์ที่พร้อมมุ่งสู่มาตรฐานโลกแห่งนี้ จะสามารถเนรมิตชีวิตคุณภาพ กับวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า ให้อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพื่อเป็นของขวัญแด่ปวงชนชาวไทยได้ในเร็ววัน
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th
Discussion about this post