เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจร จับมือกับบริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด ตัวแทนจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ “ชาร์ป (SHARP)” เพื่อพัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติเต็มรูปแบบผ่านการผสาน โซลูชัน SAP และระบบจัดเก็บและเรียกค้นข้อมูลอัตโนมัติ (AS/RS) เข้าด้วยกัน นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 โครงการคลังสินค้าอัตโนมัติได้เปลี่ยนคลังสินค้าของชาร์ปให้กลายเป็นหนึ่งในคลังสินค้าลำดับแรกๆ ในประเทศไทยที่ใช้ระบบ AI ในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยระบบอัตโนมัติได้ช่วยปรับปรุงด้านประสิทธิภาพการดำเนินงาน การจัดการกำลังคน ระบบการผลิตแบบลีน (Lean Manufacturing) อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงกระบวนการจัดการสินค้าคงคลังและโลจิสติกส์
ด้วยเป้าหมายที่จะสร้างความยืดหยุ่นและความยั่งยืนทางธุรกิจ บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า มองเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถดำเนินงานได้ตามปกติแม้ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เช่น ภาวะขาดแคลนกำลังคน การเข้าถึงข้อมูลในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Visibility) และการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
จากการนำระบบ AS/RS และโซลูชัน SAP ที่ครอบคลุมทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำมาใช้ ส่งผลให้ความจุของคลังสินค้าชาร์ปเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เวลาตอบสนองคำสั่งซื้อที่เร็วขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่องทางอีคอมเมิร์ซ และลดความต้องการทางกำลังคนให้เหลือเพียงหนึ่งในสามของจำนวนคนทั้งหมดเมื่อเทียบกับคลังสินค้าแบบดั้งเดิม ซึ่งมีบทบาทในการช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุในการทำงานด้วยเช่นกัน
นายมนตรี ตันติถาวร ผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ท้าทายสำหรับเอบีม และกรุงไทยการไฟฟ้า แต่ถือว่าเป็นโครงการสำคัญที่ช่วยให้เราได้มีโอกาสทดลองใช้ระบบและ โซลูชันของเราในการทรานส์ฟอร์มคลังสินค้าอย่างเต็มรูปแบบ เราใช้เวลาพูดคุยกันอย่างละเอียดกับทีมงานกรุงไทยการไฟฟ้า จนทำให้ทีมงานของเอบีมเข้าใจความต้องการของธุรกิจของบริษัทคู่ค้าเป็นอย่างดี เห็นได้จากความสำเร็จในการ เปลี่ยนแปลงระบบคลังสินค้าที่มีตัวเลขเป็นข้อพิสูจน์ และในขณะที่ธุรกิจของกรุงไทยการไฟฟ้าเติบโต การมีคลังสินค้าอัตโนมัติก็จะยิ่งมีประโยชน์ต่อพวกเขามากขึ้นเช่นกัน”
ก่อนติดตั้งระบบ AS/RS ทีมงานในคลังสินค้าชาร์ปต้องเผชิญกับปัญหาพื้นที่ความจุไม่เพียงพอ ปัญหาขาดแคลนกำลังคนและปัญหาสินค้าเสียหายระหว่างการดำเนินงาน ระบบ AS/RS ใช้อัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) ขั้นสูงควบคุมการทำงานทั้งหมด ซึ่งช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์ในปริมาณมากขึ้นและใช้พื้นที่คลังสินค้าอันมีค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ประโยชน์ของการนำระบบ AS/RS มาใช้ในคลังสินค้าของชาร์ปได้แก่:
ความจุเพิ่มขึ้นสองเท่า (จาก 7,000 พาเลท เป็น 15,000 พาเลท) โดยใช้กำลังคนเพียงหนึ่งในสามของจำนวนเดิม
เวลาตอบสนองคำสั่งซื้อที่รวดเร็วขึ้นด้วยระบบที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เพิ่มความยืดหยุ่นทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน
-เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังด้วยระบบข้อมูลแบบเรียลไทม์และระบบจัดการแบบอัตโนมัติ
ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ รวมทั้งค่าแรง และค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์
ลดความผิดพลาดในการนับสินค้าคงคลังและลดความเสียหายที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายสินค้าแบบใช้มือ
เพิ่มความปลอดภัยในการทำงานและเสริมสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี
นายฤทธิไกร โภคะมณี ผู้อำนวยการโรงงานกรุงไทยการไฟฟ้า กล่าวว่า “หนึ่งในกลยุทธ์หลักของเราคือการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจและบรรลุแผนงานของบริษัท การเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อปรับปรุงวิธีการทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของบริษัท เราเชื่อมั่นในความสามารถและความรู้ของ เอบีม คอนซัลติ้ง ทางด้านเทคโนโลยี AI และการใช้โซลูชั่น SAP”
“แม้ว่าโครงการนี้จะสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เรายังสามารถพัฒนาระบบให้ดีขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น ความสามารถด้านโลจิสติกส์ทั้งขาเข้าและขาออกมีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่ถึงเป้าหมาย 90 พาเลท/ชั่วโมงตามที่เราคาดการณ์ไว้ ซึ่งต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกันต่อไป”
กรุงไทยการไฟฟ้าใช้โรงงานดังกล่าวในการผลิตสินค้า 6 กลุ่ม หลักๆ ได้แก่ พัดลมไฟฟ้า เครื่องปั่น เครื่องทำน้ำอุ่นและตู้กดน้ำ หม้อหุงเข้า เตารีดไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ OEM อื่นๆ และคาดว่าว่าระบบ AS/RS จะสามารถรองรับการผลิตสินค้าเหล่านี้ได้ไม่น้อยกว่า 20,000 หน่วย/วัน ระบบ AS/RS เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด จึงลดความต้องการของกำลังคนและอุปกรณ์และยังช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสินค้าด้วยการใช้พื้นที่ว่างในอากาศให้เป็นประโยชน์เพื่อการสร้างทางเดินที่แคบลงและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น
ความกังวลหลักประการหนึ่งในการนำระบบ AS/RS มาเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานคือ ความจำเป็นของการมีพนักงาน ทั้งนี้ ไม่มีพนักงานโรงงานกรุงไทยการไฟฟ้าตกงานหรือถูกไล่ออกเพราะเทคโนโลยีใหม่นี้
“มีแต่การหมุนเวียนงานซึ่งช่วยให้พนักงานของเราได้ลองเรียนรู้ทักษะใหม่ๆเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับระบบ AI ได้ และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือเราสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ เช่น พนักงานเดินชนสินค้าหรือไม่ก็ชนกันเองระหว่างปฏิบัติงาน” นายฤทธิไกร กล่าวเสริม
หลังการรื้อถอนคลังสินค้าแบบเก่า เอบีม คอนซัลติ้ง ได้รับมอบหมายให้ทำการติดตั้งระบบ AS/RS พร้อมรวมระบบ (System Integration) เพื่อทดสอบการทำงานให้สามารถใช้การได้จริงภายในระยะเวลา 4 เดือน เอบีมให้คำมั่นว่าจะคอยสนับสนุนกรุงไทยการไฟฟ้าในการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องในอนาคต
Discussion about this post