อีร่า อะตอม (ERA ATOM) สามล้อไฟฟ้าสัญชาติไทย เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วได้รับการตอบรับอย่างมากจากตลาด เนื่องจากมีรูปทรงทันสมัย เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ด้วยการออกแบบช่วงล่างจากเทคโนโลยีรถแข่งในสนาม ที่มีความเสถียร ขับสนุก เกาะถนน และยังปลอดภัยแก่ผู้ใช้งานตอบโจทย์การขับในระยะใกล้ เช่น ในชุมชน สนามกอล์ฟ โรงงานอุตสาหกรรม สถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องการความเป็นมิตรแก่สิ่งแวดล้อม จึงนำมาสู่ไอเดียการต่อยอดธุรกิจเป็นรถขนส่งไฟฟ้า 3 ล้อตู้บรรทุก ชื่อ “โอทู (O2)” ออกแบบเพื่อการขนส่งที่ต้องการควบคุมดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผักผลไม้สด โดยจะมีแผงโซลาร์เซลล์ฝังกับหลังคารถเพื่อควบคุมอุณหภูมิของสินค้าระหว่างการขนส่ง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้เป็น 0% เพราะใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด
ศตวรรษ ลิ้มกอปรไพบูลย์ กรรมการบริษัท Electric Racing Automotive Co., Ltd เคยสร้างและพัฒนารถที่ใช้แข่งในสนาม กล่าวว่า ปัญหาการขนส่งของไทยในปัจจุบันคือ คือ 1) การขาดเทคโนโลยีเกี่ยวกับรถไฟฟ้าที่ช่วยทำให้การขนส่งแม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัย และ 2) ปัญหาของน้ำมันที่มันสูงขึ้นเรื่อยๆ
จึงได้พัฒนา “โอทู (O2)” รถขนส่งสินค้าไฟฟ้า 3 ล้อพร้อมตู้ทึบ ขึ้นมาแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงและทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งต้นน้ำที่มีความสามารถในการผลิตรถไฟฟ้าใช้งานที่มีดีไซน์สวยและมีคุณภาพ โอทูเหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่ต้องได้รับการดูแลและควบคุมอุณหภูมิพิเศษ เช่น การขนส่งผักผลไม้ออร์แกนิก และยังสามารถควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับน้ำหนักของสิ่งของขณะกำลังบรรทุก เพื่อประหยัดพลังงาน โดยหลังคารถจะฝังแผงโซลาร์เซลล์ วัสดุทำจากคาร์บอนคอมโพสิต ที่ให้น้ำหนักเบา ซึ่งสามารถทดแทนการใช้เหล็กได้ ลดจุดด้อยของรถไฟฟ้าที่มีน้ำหนักจากแบตเตอรี่ได้มาก
ซึ่งโอทูมีมอเตอร์ขนาด 15 กิโลวัตต์ สามารถวิ่งในระยะ 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มๆ 1 ครั้ง ในความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถบรรจุของได้ 500-700 กิโลกรัม ต่อการส่ง 1 เที่ยว โดยจะมีความคล่องตัวกว่า มอเตอร์ไซค์เพราะมีขนาดใหญ่กว่า แต่จะน้อยกว่ารถยนต์ เพราะเป็นขนาดสามล้อ
“ตอนสร้างรถตุ๊กตุ๊กอะตอม เราสร้างเพื่อการใช้งานในชุมชน จึงไม่สามารถจดทะเบียนได้ แต่เจ้าตัวโอทูนี้สามารถจดทะเบียนและใช้งานบนถนนได้อย่างถูกต้อง เพราะมีขนาดมอเตอร์ที่ตรงตามกรมขนส่งกำหนด”
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังสามารถออกแบบลวดลายของรถขนส่งโอทูให้ตอบโจทย์กับดีไซน์และความเป็นแบรนด์ขององค์กรลูกค้า เพื่อสร้างให้เกิดการจดจำและสร้าง สี ลวดลาย ให้เหมาะสมแก่ความต้องการของลูกค้า และมีแอปพลิเคชั่นที่มีระบบ IOT สามารถติดตาม มอนอเตอร์ สื่อสาร ควมคุม จากเซนเซอร์ต่างๆ ที่อยู่ในตัวรถได้แบบเรียลไทม์
“กลุ่มเป้าหมายของโอทูคือ กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้รับส่งทั่วไป เช่น เคอรี่ แฟลช ไปรษณีย์ไทย ฯลฯ และกลุ่มตลาดอีคอมเมิช โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรถต้นแบบและเปิดให้จองในต้นปี 2566 ในราคาประมาณ 500,000 – 700,000 บาท” ศตวรรษ กล่าว
สำหรับการตลาดช่วงแรกหลังจากเปิดการซื้อขายจะบริการแค่ในกรุงเทพมหานคร เพราะต้องการวางโครงข่ายจุดชาร์จและแบตเตอรี่ และดูการตอบรับในเฟสแรกก่อน หากการตอบรับตรงตามเป้าหมายก็จะพัฒนาไปสู่ต่างจังหวัดและพัฒนาเป็นรถส่วนบุคคล
สำหรับ “อะตอม” คงเป็นก้าวแรกของการเข้ามาผลิตรถพลังงานไฟฟ้าของศตวรรษ โดยได้อธิบายว่า จุดเริ่มต้นของอะตอมคือ การอยากสร้างรถให้กับพ่อ เพื่อลดการใช้มอเตอร์ไซค์ที่เป็นอันตรายในผู้สูงอายุ อะตอมจึงเป็นรถต้นแบบที่สร้างเพื่อผู้สุงอายุ มีความน่ารัก และมีความปลอดภัย รูปทรงจะทำให้เป็นการออกแบบที่เหมือนยานพาหนะและเป็นเพื่อนกับคนขับ ซึ่งจะสอดคล้องกับผู้สูงอายุต้องการคนดูแล ชิ้นส่วนของตัวถังหลักจะมาจากคาร์บอนคอมโพสิต เหมือนกับโอทู โดยจะมีสองชิ้นคือโครงหน้ากับหลังคา มีขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ทำให้มีความคล่องตัว และสามารถเข้าพื้นที่เล็กๆ ได้ง่าย ส่วนฐานของรถทำมาจากเหล็กจะออกแบบโดยใช้วิธีสามมิติ มีโช้กช่วยรับน้ำหนักได้มากกว่าการใช้แหนบเหมือนรถตุ๊กตุ๊กทั่วไป ซึ่งจะมีความเสถียรมากขึ้น
รถจะมีความเป็นจิตวิญญาณนักซิ่ง เพราะออกแบบมาให้ขับสนุกและมีความเกาะถนนมากขึ้น โดยสามารถนั่งได้ทั้งหมด 3 คน ทำความเร็วได้ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่ารถกอล์ฟทั่วไป การใช้งานจะสามารถเชื่อมกับแอปพลิเคชันในมือถือเพื่อดูฟังก์ชันต่างๆ เช่นพลังงาน ความเร็ว แบตเตอรี่ของการใช้ตัวรถ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดเพลงฟังในรถขณะกำลังใช้งาน เพื่อสร้างความเพลิดเพลินได้อีกด้วย
อะตอม เปิดตัวในราคา 90,000-100,000 กว่าบาท ขณะนี้มียอดขายที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี และมียอดจองที่สูง ได้นำไปใช้งานหลายรูปแบบ หลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานส่วนบุคคล หรือการร่วมกับภาครัฐ ภาคท้องถิ่นต่างๆ เช่น ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 จ.ขอนแก่น นำอะตอมมาใช้เป็นรถตุ๊กตุ๊ก ไฟฟ้าต้นแบบ รับสังคมผู้สูงอายุและคนพิการ เพราะมีความกระทัดรัดและปลอดภัย
ศตวรรษ กล่าวว่า ปัญญาของรถเล็กๆ แบบอะตอมคือ ค่าภาษีนำเข้าอะไหล่รถที่มีราคาแพง ขณะนี้รัฐบาลมีส่วนสนับสนุนเรื่องภาษี มีส่วนลด ให้กับคนที่จะซื้อรถไฟฟ้ามาใช้ เช่น รถยนต์ 4 ล้อไฟฟ้า แต่ขณะเดียวกันด้านรถขนาดเล็กที่ใช้ในชุมชนยังไม่มีเงินทุนที่เข้ามาช่วยเหลือ ถ้าเกิดได้รับการสนับสนุนรถที่เหมาะกับการวิ่งระยะใกล้ก็จะทำให้วงการรถยนต์ไฟฟ้านั้นไปได้เร็วและไกลมากขึ้น
“คนไทยที่เก่งเรื่องเครื่องยนต์ไฟฟ้านั้นมีเยอะ แต่คนที่กล้าทำมีน้อยเพราะการทำเรื่องพวกนี้จะต้องนำเข้าอะไหล่หรือเทคโนโลยีจากต่างประเทศ มีเรื่องของภาษีและค่านำเข้าที่แพง แต่ที่ผมยังทำอยู่ก็เพราะแพชชั่นที่อยากให้ไทยเป็นแหล่งต้นน้ำรถยนต์ไฟฟ้า” ศตวรรษกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ “โอทู (O2)” เป็น 1 ใน 10 ผลงานที่ได้รับคะแนนสูงสุดจาก 25 รายที่ผ่านการคัดเลือกในกิจกรรม Pitching & Meet Investors เพื่อรับรางวัล TechBiz Starter Funds 20,000 บาท ภายใต้โครงการ “สร้างผู้ประกอบการใหม่ด้วยนวัตกรรม” โดยศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อสนับสนุนและต่อยอดกลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นดำเนินธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้สามารถสร้างรากฐาน ดำเนินธุรกิจอย่างมีทิศทาง และสร้างโอกาสขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง
Discussion about this post