นวัตกรรมนักวิจัยไทย “เครื่องประเมินความสมดุลแรงกดน้ำหนักพร้อมการสื่อสารแบบไร้สาย” นอกจากช่วยบุคลากรทางการแพทย์วินิจฉัยความผิดปกติจากโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยเก็บข้อมูลไว้ในประเทศไทย
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ให้ทุนสนับสนุนคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายใต้โครงการวิจัยแบบบูรณาการยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม ในการขับเคลื่อนงานวิจัยที่มีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งโครงการได้มีพัฒนาระบบทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องทั้งภาวะฉุกเฉินที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ และจากโรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะกลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่งถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ
![](https://sp-ao.shortpixel.ai/client/to_webp,q_glossy,ret_img,w_768,h_478/https://thaiinnovation.center/wp-content/uploads/2022/08/0930d3807875c38f46cabd164ebde792dbd56d24876747720a5a1ff73b86bf7e.jpg)
“โครงการพัฒนาเครื่องประเมินความสมดุลแรงกดน้ำหนักพร้อมการสื่อสารแบบไร้สาย” ผลงานของ “รองศาสตราจารย์ ดร.นิพนธ์ ธีรอำพน” จากสถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่พัฒนาขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับบุคลากรทางแพทย์ ในการวัดแรงกด ณ บริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวินิจฉัยความผิดปกติที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง(Stroke) ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการแขนขาอ่อนแรง เสียการทรงตัวจากหลอดเลือดในสมองมีภาวะตีบ อุดตัน หรือแตกทำให้เนื้อเยี่อในสมองถูกทำลาย การวินิจฉัยอย่างที่ถูกต้องและรวดเร็วจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูสภาพร่างกายของผู้ป่วยและลดภาวะพิการและทุพพลภาพได้
สำหรับการวิจัยดังกล่าว ผู้วิจัยได้มีการพัฒนาเครื่องประเมินความสมดุลแรงกดน้ำหนักพร้อมการสื่อสารแบบไร้สาย สำหรับโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเครื่องฯ ไปใช้ ก่อนที่จะผลิตและ ทดสอบความแม่นยำ เที่ยงตรง และประสิทธิภาพของตัวเครื่องฯ และได้นำส่งให้ผู้เชี่ยวชาญทดสอบเพื่อประเมินความเป็นได้ในการใช้งานแล้ว 2 ทีมจำนวน 10 เครื่อง คือ ทีมนักกายภาพ โรงพยาบาลสันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และทีมนักกายภาพ โรงพยาบาลสารภีบวรพัฒนา อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ผลการทดสอบพบว่า อุปกรณ์สามารถวัด Weight balance ของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
![](https://sp-ao.shortpixel.ai/client/to_webp,q_glossy,ret_img,w_1024,h_683/https://thaiinnovation.center/wp-content/uploads/2022/08/7583b7035d7c17dabe579ae44e698db7924f2182d0f15775484d53955a27f60a-1024x683.jpg)
![](https://sp-ao.shortpixel.ai/client/to_webp,q_glossy,ret_img,w_768,h_530/https://thaiinnovation.center/wp-content/uploads/2022/08/8d8908b288cb9d39e5abf9cb90be8fde4e739f83016d5b94d590cea8a386af05.jpg)
ส่วนจุดเด่นของงานวิจัยนี้ คือ เครื่องสามารถส่งข้อมูลเข้ามือถือระบบแอนดรอยด์ได้ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถนำข้อมูลการลงน้ำหนักเท้าแต่ละข้างของคนไข้ ไปใช้ประกอบการวินิจฉัยความผิดปกติ หรือใช้ประกอบการฟื้นฟูผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และที่สำคัญเครื่องดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นในประเทศโดยคนไทย จึงเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีของประเทศไทย ข้อมูลซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้ทั้งหมดจะถูกจัดเก็บไว้ในประเทศ สามารถพัฒนาต่อยอดหรือเสริมสมรรถนะของระบบได้เองตามความต้องการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันผลงานวิจัยนี้มีการขยายผลเชิงพาณิชย์แล้วทั้งในระดับโรงพยาบาล และภาคครัวเรือน เพื่อเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการวินิจฉัย และฝึกกายภาพสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องปรับการลงน้ำหนักเท้าให้สมดุล
Discussion about this post