ปัจจุบันเกษตรกรไทยยังคงพึ่งพาการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช โดยเฉพาะอย่างยิ่งพาราควอตและอาทราซีน เพื่อควบคุมวัชพืชในพื้นที่ทำการเกษตร จากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจทางการเกษตรพบว่าเมื่อปี 2562 ประเทศไทยมีการนำเข้าพาราควอตเกือบ 10 ล้านกิโลกรัม และนำเข้าอาทราซีนเกือบ 3.5 ล้านกิโลกรัม การตกค้างของสารกำจัดวัชพืชเหล่านี้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตและสุขภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง
รศ.ดร.ธัญญลักษณ์ ฉายสุวรรณ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยชุดทดสอบสารปนเปื้อนยาฆ่าแมลงในน้ำ เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืนและปลอดภัย ได้ร่วมมือกับ ผศ.ดร.ลักษณา ดูบาส ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ในการพัฒนาชุดตรวจวัดสารปนเปื้อนยาฆ่าแมลงในน้ำ โดยใช้วัสดุคาร์บอนรูพรุนในระดับนาโนเมตรที่สังเคราะห์ได้ ควบคู่กับเทคนิคการวิเคราะห์ด้วยสี เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการตรวจวัด ช่วยลดปัญหาจากการตกค้างของสารกำจัดวัชพืช ซึ่งเป็นงานวิจัยของนิสิตปริญญาเอกภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เป็นการบูรณาการงานวิจัยในสองสาขาเพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหายาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในน้ำ ซึ่งทดสอบได้ยาก
รศ.ดร.ธัญญลักษณ์ กล่าวว่าประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรรม จึงมีการใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีในการผลิตวัตถุดิบทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก สถานการณ์การใช้ยาฆ่าแมลงของเกษตรกรไทย เมื่อปี 2564 ประเทศไทยมีการใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีต่างๆ ในการทำเกษตรกรรมสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยมีการใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีต่างๆ 0.65 กิโลกรัมต่อไร่ จากงานวิจัยพบว่าสารเคมีประเภทพาราควอตและอาทราซีนเมื่อสะสมในร่างกายมีผลทำให้เป็นโรคพาร์คินสันและโรคมะเร็ง จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการคิดค้นชุดทดสอบสารปนเปื้อนยาฆ่าแมลงในน้ำ โดยใช้วัสดุดูดซับและเปรียบเทียบสีซึ่งมีความไวในการดักจับสารพาราควอตและอาทราซีนในปริมาณน้อยได้ วัสดุดูดซับและเปรียบเทียบสีดังกล่าวได้จากการสังเคราะห์โพลิเมอร์เฉพาะตัว สามารถเปลี่ยนจากวัสดุอินทรีย์เคมี โดยนำมาเผาในภาวะอากาศเฉื่อยให้มีลักษณะคล้ายถ่าน ได้เป็นคาร์บอนรูพรุนซึ่งรูมีขนาดเล็กมาก มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เส้นผ่าศูนย์กลางของรูพรุนอยู่ในระดับนาโนเมตร และมีความเบามาก การทดลองที่ผ่านมาได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ในอนาคตจะมีการต่อยอดงานวิจัยโดยนำพื้นผิววัสดุดูดซับไปประยุกต์ใช้กับในการดักจับสารชนิดอื่นได้
รศ.ดร.ธัญญลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 150 ล้านไร่ มีรายได้จากการเกษตรคิดเป็น 10% ของ GDP การที่รัฐบาลได้ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำ การมีรายได้ต่อหัวต่ำ รวมถึงการสนับสนุนเรื่อง Smart Farming หรือเกษตรอัจฉริยะ จึงจำเป็นต้องมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย การพัฒนานวัตกรรมชุดทดสอบสารปนเปื้อนยาฆ่าแมลงในน้ำ เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืนและปลอดภัย จะเป็นประโยชน์อย่างมาก
ปัจจุบันชุดทดสอบนี้อยู่ในรูปแบบของโมเดลซึ่งสามารถนำไปทดสอบเพื่อการใช้งานได้จริง ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ รศ.ดร.ธัญญลักษณ์ ฉายสุวรรณ์ วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาฯ โทร.0-2218-4124 อีเมล: thanyalak.c@chula.ac.th
Discussion about this post