5G NR Physical Cell ID (PCI) คือค่าทางกายภาพที่ใช้จำแนกแยกระหว่าง5Gเซลล์หนึ่งกับอีกเซลล์หนึ่ง ซึ่งคล้ายกับ PCI LTE และ Scrambling code (SC) ของ 3G ถ้าหากวางแผนไม่ดีจะส่งผลต่อระบบสัญญาณทำให้ประสิทธิภาพเครือข่ายลดลง ซึ่งการวางแผน PCI ของ 5G ถือว่าง่ายกว่า LTE มากเพราะมีจำนวนมากถึง 2 เท่าของ LTE นั่นเอง
5G มี PCI ไม่ซ้ำกันได้ถึง 1008 ค่า เทียบกับ LTE ที่มีเพียง 504 ค่าเท่านั้น ตามสูตรต่อไปนี้
N (1) ID = Secondary Synchronization Signal (SSS) and its range is from {0, 1….335}
N (2) ID = Primary Synchronization Signal (PSS) and its range is from {0, 1, 2}
– หลีกเลี่ยงการชนกันของ PCI
ตามหลักคือเซลล์ที่อยู่ติดกันไม่ควรมีค่า PCI เดียวกันเพราะเมื่อเกิด synchronized จะทำการเลือกเอาเพียงเซลล์เดียวเท่านั้นและอาจจะเลือกเซลล์ที่ไม่เหมาะสมในการใช้งาน ดังนั้นควรแยกออกจากกันให้ชัดเจนเพื่อให้แน่ใจว่า UE ไม่เคยได้รับ PCI เดียวกันนี้ วิธีจัดการคือเพิ่มระยะห่างการใช้ซ้ำในการวางแผน PCI ให้มากขึ้นเพื่อที่บริเวณใกล้เคียงจะไม่มี PCI ซ้ำ
การชนกันของ PCI มีผลให้เกิดความล้มเหลวในการส่งสัญญาณ (Handover failures)
– หลีกเลี่ยงความสับสนของ PCI
หลักการของจับคู่ Neighbor ต่อเซลล์ ไม่ควรจับคู่กับเซลล์ที่มีค่า PCI เดียวกันมากกว่าหนึ่งคู่ เพราะหาก UE อยู่ระหว่างเซลล์สองเซลล์ที่มี PCI เดียวกันจะทำให้สถานีฐาน(Base station) เกิดความสับสนว่าเซลล์ไหนคือเป้าหมายในการส่งสัญญาณของ UE การวางแผน PCI ที่มีค่าซ้ำควรจะมีระยะห่างที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้น
– การลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครือข่าย
ขึ้นอยู่กับการออกแบบของสัญญาณชั้นกายภาพที่แตกต่างกัน (PSS, DMRS & SRS) ช่องสัญญาณ (PUSCH, PUCCH) และ ความถี่ของสัญญาณ
ในการวางแผน PCI ควรพิจารณาตาม Mod เพื่อลดการรบกวนของสัญญาณตามหลักการ Mod นี้ UE ไม่ควรรับ PCI หลายตัวพร้อมกันด้วยโหมดต่อไปนี้
-PCI MOD3
-PCI MOD4
-PCI MOD30
Discussion about this post