ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้จัดทำแอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพและเข้าถึงบริการสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้กับประชาชน ประกอบด้วย
แอปพลิเคชันพจนานุกรมศัพท์แพทย์และเภสัชกรรมแผนไทย
แอปพลิเคชันสมุนไพรไทยแอปพลิเคชันพจนานุกรมศัพท์แพทย์แผนไทย (ไทย-อังกฤษ)
แอปพลิเคชันสมุนไพรเฟิร์สแอปพลิเคชันการระบุชนิดสมุนไพรด้วยภาพ (HerbID)
แอปพลิเคชัน Big Data นวดไทย และแอปพลิเคชัน Dr.Ganja in TTM เป็นต้น
ล่าสุด วันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กับ คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อร่วมกันศึกษา วิจัยและพัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอัจฉริยะ (Smart Healthcare TTM) โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี
การลงนาม เพื่อร่วมกันศึกษา วิจัยและพัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพ ด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอัจฉริยะ (Smart Healthcare TTM) มี 4 โมดูล ประกอบด้วย
1. Digital TTM Knowledge Management เป็นการนำตำรับ/ตำราการแพทย์แผนไทยที่ได้บันทึกไว้ในสมุดไทย ใบลาน ศิลาจารึก หรือวัสดุอื่นใด เข้าสู่กระบวนการ Digitization และจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ Digital Knowledge based
2. TTM Expert & Recommendation Systems เป็นกระบวนการ Digitalization ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญ และ ระบบช่วยแนะนำ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายถอด ปริวรรต สังคายนา และสืบค้นตำรับ/ตำราการแพทย์แผนไทย
3.Herbal Product & Service Big Data Management เป็นกระบวนการ Digital Transformation โดยพัฒนา Big data ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อใช้ในการวางแผนการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจอย่างครบห่วงโซ่คุณค่า
4. TTM Herbal Product & Service Innovation เป็นกระบวนการ Digital Disruption โดยพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลด้านการบริการการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร เพื่อยกระดับ การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ และบริการสุขภาพด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรให้แก่ประชาชน สามารถเข้าถึง ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ (Anywhere, Anytime and Anydevice)นำความรู้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ปัจจุบันการให้บริการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ได้มีการใช้การแพทย์แผนไทยเข้าไปเป็นสิทธิประโยชน์ในหลักประกันสุขภาพภาครัฐทั้งบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ ซึ่งการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมีจุดแข็ง แม้เป็นศาสตร์อดีต แต่สามารถพัฒนาโดยใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ ทำให้ความรู้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง และผสมผสาน สามารถผลักดันบริการเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น
“ความร่วมมือครั้งนี้ จะเกิดการวิจัย และพัฒนาแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอัจฉริยะ (Smart Healthcare TTM) ในการพัฒนาความรู้ทางวิชาการ พัฒนาการศึกษา ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลประเทศไทย 4.0 เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศ”
ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กล่าวว่า ความมุ่งหวังในการลงนาม MOU ในครั้งนี้เพื่อความร่วมมือ ด้านวิชาการการเรียนการสอน ในหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และสาขาที่เกี่ยวข้อง การวิจัยการพัฒนาบุคลากรและ การสร้างนวัตกรรมดิจิทัลด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อร่วมกันพัฒนาการเรียนการสอนของนักศึกษาในหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และสาขาที่เกี่ยวข้อง
Discussion about this post