ความสวยงามของทะเลไทยขึ้นชื่อติดอันดับโลก แต่ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็ติดอันดับ 6 ของประเทศที่ปล่อยขยะลงสู่ทะเลมากที่สุดในโลก มากถึง 1 ล้านตันต่อปีเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ เอสซีจี จึงได้ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าจัดการปัญหาขยะทะเลมาอย่างต่อเนื่อง และได้พัฒนาทุ่นดักขยะเดิมของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้มีกลไกฝาเปิด-ปิดที่อาศัยหลักการไหลของน้ำและแรงดัน เกิดเป็น “นวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำ” (SCG–DMCR Litter Trap) ซึ่งช่วยกักเก็บขยะไม่ให้หลุดลอยออกนอกทุ่นตามการเปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำ และในปี 2563 เอสซีจี ยังคงเดินหน้าพัฒนาทุ่นกักขยะลอยน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยนำความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีด้านวัสดุพอลิเมอร์ ผสมผสานกับความสามารถด้านการออกแบบเชิงวิศวกรรมมาพัฒนา นวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำจาก HDPE-Bone หรือ SCG-DMCR Litter Trap Generation 2 ด้วยการนำ HDPE-Bone ซึ่งผลิตจากพลาสติกเกรดพิเศษ HDPE มาใช้ทดแทนวัสดุเดิม ทำให้ทุ่นฯ สามารถลอยน้ำได้ดีขึ้น จัดเก็บขยะลอยน้ำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ทนทานต่อรังสียูวี อายุการใช้งานยาวนาน และสามารถนำกลับมารีไซเคิลตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนได้อีกด้วย และในวันทะเลโลกประจำปี 2563 เอสซีจีได้ส่งมอบ “นวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำ จาก HDPE-Bone” หรือ SCG-DMCR Litter Trap Generation 2 ให้กับ 7 จังหวัดชายฝั่งทะเล ได้แก่ ระยอง สมุทรปราการ เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี สงขลา พังงา และกระบี่ เพื่อป้องกันขยะไหลสู่ทะเล
Discussion about this post