ทีมนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แสดงศักยภาพของนวัตกรรุ่นใหม่ ส่งผลงานสุดยอดนวัตกรรมจรวดความเร็วเสียง ชื่อ “เคอร์เซอร์-1” (CURSR-1) เข้าร่วมการแข่งขันจรวดความเร็วเสียงที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับนานาชาติ ในรายการ Spaceport America Cup 2022 ที่จัดขึ้นเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2565 ณ เมืองลาสครูเซส รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีนิสิตนักศึกษาจากสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 150 สถาบัน
โดยทีมนิสิต ชั้นปีที่ 2 จำนวน 14 คน จากชมรม CUHAR (ซียูฮาร์) (Chulalongkorn University High Altitude Research Club) หลักสูตรวิศวกรรมนานาชาติ (International school of Engineering :ISE) สาขาวิศวกรรมอากาศยาน (Aerospace Engineering) คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ สามารถคิดค้น พัฒนาวิศวกรรมจรวดความเร็วเสียง ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ สร้าง และยิงจรวดความเร็วเสียง จนสามารถเป็นตัวแทนของประเทศไทยทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้เข้าร่วมแข่งขันในระดับความสูง 10,000 ฟุต
งานสุดยอดนวัตกรรมจรวดความเร็วเสียง “เคอร์เซอร์-1” ของทีมนิสิตคณะวิศวฯ จุฬาฯ นั้นได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ Dr.Gil Moore Award ด้านความเป็นเลิศแห่งนวัตกรรมการออกแบบจรวดความเร็วเสียง โดยได้รับรางวัลร่วมกับทีมจากประเทศสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ส่วนการทดสอบยิงจรวดจริง ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 53 จากทั้งหมด 150 ทีมทั่วโลก
นายภูวิศ เชาวนปรีชา ประธานชมรมซียูฮาร์ นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จรวดความเร็วเสียง “เคอร์เซอร์-1” เป็นจรวดลำแรก ของทีมนิสิตคณะวิศวฯ จุฬาฯ และลำเดียวจากประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งจรวดลำนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของเพื่อนๆ ทุกคนในชมรมฯ ที่ต้องการพัฒนาจรวดฝีมือคนไทย ซึ่งสำหรับนิสิตในไทย ยังมีข้อจำกัดในการหาเชื้อเพลิง รวมถึงที่ฝึกยิง ทำให้คณะกรรมการต่างพากันชื่นชม และตะลึงในความสามารถของนิสิตไทย ที่สามารถคิดค้นจรวดได้ ทั้งที่ไม่มีพื้นที่ฝึกยิง แต่ใช้เทคนิคเฉพาะด้านในการทดสอบควบคุมสั่งการแทน และยังเป็นจรวดที่มีศักยภาพสูงเทียบเท่ากับจรวดของประเทศอื่นที่มีพื่นที่ในการฝึกยิง และมีความพร้อมในการผลิตจรวด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับคำแนะนำจากท่านคณบดี ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ. ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล รวมถึงคณาจารย์ที่ปรึกษาโครงการทุกท่าน
ดร.พิทักษ์พงษ์ รัตนไกรคณากร อาจารย์ประจำหลักสูตร หลักสูตรวิศวกรรมนานาชาติ (ISE) สาขาวิศวกรรมอากาศยาน (Aerospace Engineering) เปิดเผยว่า ความสำเร็จของนิสิตกลุ่มนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จ ของการศึกษาไทยด้วยเช่นกัน เพราะหลักสูตร ISE สาขาวิศวกรรมอากาศยาน ของคณะวิศวฯ จุฬาฯ นั้น สอนให้นักศึกษาสร้างระบบความคิด ในการผลิตผลงานนวัตกรรมต่างๆ เช่นเดียวกับนิสิตกลุ่มนี้ที่สามารถผลิตจรวดได้รางวัลระดับโลก ดังนั้นสำหรับเยาวชนด้านไหนที่สนใจเกี่ยวกับจรวด หรือมีความฝันเกี่ยวกับการสร้างผลงานออกไปนอกอากาศยาน สามารถเข้ามาศึกษา หรือ เรียนในหลักสูตร หลักสูตรนานาชาติ (ISE) สาขาวิศวกรรมอากาศยาน (Aerospace Engineering) ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ ซึ่งเปิดกว้างให้กับเยาวชนทุกคนได้แสดงศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่
สำหรับทีมนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่เข้าร่วมแข่งขันจรวดครั้งนี้ ประกอบด้วย
1. นายภูวิศ เชาวนปรีชา
2. นายพีรวิชญ์ จิระคุณากร
3. นายนิธิพจน์ สืบพานิช
4. นายกฤตนุ หงษ์วิหค
5. นางสาวพรธีตรา รัตนพันธุ์ศรี
6. นางสาวรชยา ดีเลิศกุลชัย
7. นายพศิน มนัสปิยะ
8. นายภวินท์ กฤติยานิธิ
9. นายภูวนัฏฐ์ พัทระฐวินัน
10. นายณภัทร พรถาวรวิทยา
11. นายตฤณ อุทัยสาง
12. นายรัชกฤช ศีลสัตย์
13. นายธนกฤต มาลีสุทธิ์
14. นายสิริวัชร์ สิริรัต
Discussion about this post