กว่า 2 ปีแล้ว สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าการแพร่ระบาดจะลดน้อยลง เมื่อไวรัส SARS-CoV-2 มีการปรับตัวกลายพันธุ์สู่กลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวลอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคือสายพันธุ์ “โอมิครอน (Omicron)” ที่ระบาดได้รวดเร็ว และหลบหลีกภูมิต้านทานได้มากขึ้น ดังนั้นการปรับตัวเข้าสู่วิถี “New Normal หรือ ฐานวิถีชีวิตใหม่” จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการปรับพฤติกรรมป้องกันการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19
ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ (NSD) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนานวัตกรรม MagikTuch ปุ่มกดลิฟต์ไร้สัมผัส แบบ 2 in 1 เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสกับปุ่มกดลิฟต์ที่อาจมีสารคัดหลั่งหรือเชื้อโรคต่างๆ ของผู้ป่วยติดค้างอยู่ สามารถช่วยลดการแพร่กระจายโรคโควิด-19 โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อขยายผลสู่การใช้งานจริงเพื่อบรรเทาวิกฤตการระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศ
ดร.ศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ (NSD) สวทช. กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรคระบาดเกิดขึ้นจำนวนมาก และหลายโรคสามารถติดต่อกันผ่านการสัมผัสสิ่งของต่างๆ ที่มีสารคัดหลั่งหรือเชื้อโรคจากผู้ป่วยติดค้างอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งของต่างๆ ที่มีคนใช้งานร่วมกัน เช่น ที่จับประตู ราวบันไดเลื่อน ก๊อกน้ำ รวมถึงปุ่มกดลิฟต์โดยสาร หนึ่งในระบบขนส่งที่มีผู้คนใช้ร่วมกันจำนวนมาก ทั้งในโรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล และสถานที่ทำงาน ต่างๆ ทีมวิจัยจึงพัฒนานวัตกรรมเมจิกทัช (MagikTuch) เพื่อเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ลดการเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
“MagikTuch มีจุดเด่น 3 ข้อ คือ 1. Touchless เป็นระบบการทำงานแบบไร้สัมผัส สั่งการด้วยเซนเซอร์ วิธีใช้งานง่ายคือใช้นิ้วมือวางเหนือปุ่มลิฟต์ของชั้นที่ต้องการระยะห่าง 1-3 เซนติเมตร เซนเซอร์จะตรวจจับข้อมูลชั้นที่ต้องการเลือกและสั่งการลิฟต์โดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งมีระบบการตรวจจับเพื่อป้องกันการสั่งการพร้อมกันหลายปุ่ม ขณะเดียวกันหากระบบเกิดการขัดข้อง หรือผู้ใช้งานไม่สะดวกใช้งานแบบไร้สัมผัส สามารถใช้วิธีกดปุ่มลิฟต์แบบเดิม เนื่องจากระบบออกแบบให้ทำงานได้ 2 แบบ คือ แบบไร้สัมผัสและการกดปุ่ม 2. Safe from Infection ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรค เพราะเมื่อไม่มีการสัมผัสจะลดการแพร่กระจายเชื้อโรคในลิฟต์ และ 3. Easy Installation คือติดตั้งได้ง่ายและมีความยืดหยุ่น โดยชุดอุปกรณ์ MagikTuch สามารถติดตั้งเข้าไปบนลิฟต์ตัวเดิม โดยไม่ต้องดัดแปลงหรือเชื่อมต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของตัวลิฟต์ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะการรับประกันระบบของบริษัทผู้ติดตั้งและผู้ดูแลลิฟต์ อีกทั้งยังออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสามารถรองรับจำนวนชั้นได้ตามที่ต้องการสำหรับลิฟต์โดยสารหลากหลายยี่ห้อ อีกทั้งมีระบบป้องกันทางไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และผ่านการทดสอบมาตรฐานด้าน EMC/EMI
ปัจจุบันทีมวิจัยได้ขยายผลการพัฒนานวัตกรรม MagikTuch สำหรับแปลงระบบลิฟต์ทั่วไปให้เป็นระบบลิฟต์แบบไร้สัมผัสเพื่อบรรเทาปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากการใช้ลิฟต์ในที่สาธารณะที่มีประชาชนมาใช้จำนวนมาก โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานการวิจัยเเห่งชาติ (วช.)
ดร.ศิวรักษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สวทช. ได้ดำเนินการติดตั้งใช้งานระบบ MagikTuch ตามสถานที่ต่างๆ จำนวน 14 จุดติดตั้ง เช่น ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ และจากการสนับสนุนเพิ่มเติมจาก วช. ทำให้เกิดการขยายผลและอยู่ระหว่างการติดตั้งและส่งมอบ MagikTuch ให้มีการนำใช้งานเพิ่มเติมในสถานที่มีคนไปใช้งานจำนวนมากอีกกว่า 10 แห่ง อาทิ ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งน่าจะเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาวิกฤตเร่งด่วนของประเทศได้พอสมควร
“MagikTuch เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ช่วยลดการลดการแพร่กระจายเชื้อก่อโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่มาใช้บริการสถานที่ต่างๆ และเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองและสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศยามเกิดภัยจากโรคระบาดในอนาคต”
ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ สวทช. เบอร์โทรศัพท์: 02 564 6900 ต่อ 2521 E-mail: siwaruk.siw@nstda.or.th
Discussion about this post